Onimusha 3 ซามูไร การเดินทางข้ามเวลา และเกมเพลย์ที่สนุกเกินคาด

Browse By

Onimusha 3 ซามูไร การเดินทางข้ามเวลา และเกมเพลย์ที่สนุกเกินคาด

ในยุค PS2 มีเกมแอคชันไม่มากนักที่สามารถนำเสนอความเป็นซามูไรได้อย่างทรงพลัง มีเอกลักษณ์ และผสมผสานองค์ประกอบแนวฟันแหลกเข้ากับงานภาพระดับภาพยนตร์ได้อย่างลงตัว แต่หนึ่งในเกมที่ทำได้ดีที่สุดคือ Onimusha 3: Demon Siege

นี่คือภาคที่หลายคนยกให้ดีที่สุดในซีรีส์ Onimusha
คือภาคที่ทีมพัฒนา Capcom ยกระดับจากเกมแอคชัน–ผจญภัยกึ่งเอาตัวรอด
เข้าสู่ความเป็น “แอคชันซามูไรแบบฮอลลีวูด” อย่างเต็มตัว

มีทั้งการเดินทางข้ามเวลา
มีทั้งสองตัวละครเอก
มีทั้งฉากในอดีตและปารีสสมัยใหม่
มีทั้งบอสสุดเท่
และมีทั้งจังหวะต่อสู้ที่สนุกจนคอแอคชันต้องยิ้ม

เหมือนการสมัคร เล่นคาสิโนออนไลน์กับ ยูฟ่าเบท เว็บตรง มั่นคง ปลอดภัย ระบบทันสมัยที่สุด สมัครง่าย ไม่ผ่านเอเย่นต์ พร้อมโปรโมชั่นเด็ดทุกวัน ที่เริ่มเล่นได้ง่ายและเข้าถึงทันที Onimusha 3 เองก็เป็นเกมที่เริ่มต้นแล้ว “สนุกเลย ไม่ต้องปรับตัวนาน” แต่ยิ่งเล่นก็ยิ่งพบระบบลึก ๆ ที่น่าค้นหาและดึงให้เล่นต่อจนจบแบบไม่รู้ตัว

บทความนี้จะพาคุณสำรวจทุกมิติของ Onimusha 3 ว่าทำไมมันถึงเป็นภาคที่ยอดเยี่ยมที่สุดของซีรีส์ และทำไมแฟนเกมจำนวนมากยังเรียกร้องให้ Capcom นำซีรีส์นี้กลับมาอีกครั้ง


หนึ่ง การกลับมาของ Samanosuke – ซามูไรผู้ผนึกดาบกับปีศาจ

พระเอกหลักของซีรีส์ Onimusha คือ Samanosuke Akechi
ซามูไรผู้มีโชคชะตาเกี่ยวข้องกับเหล่า Genma ปีศาจที่ต้องการเข้าครองโลก

ในภาคแรกและภาคสอง เราเห็นภาพของ Samanosuke ในยุคซามูไรเต็มตัว
แต่ใน Onimusha 3 เขาทะลุเวลามา “ปารีสยุคปัจจุบัน”
และเริ่มเป็นซามูไรที่ต้องฟาดฟันศัตรูในโลกที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

ฉาก Samanosuke ปรากฏตัวในปารีสกลางไฟไหม้ เปิดฉากด้วยการฟัน Genma กลางถนน และประกอบกับภาพจริงของนักแสดง Jean Reno ที่รับบท Jacques Blanc คือความอลังการระดับภาพยนตร์ที่หาไม่ได้ในเกมยุคนั้น

นี่คือการเปิดเกมที่ “ตราตรึง” จนผู้เล่นจำได้ตลอดชีวิต


สอง Jacques Blanc – การเพิ่มตัวละครที่เสริมจังหวะเกมเพลย์อย่างลงตัว

Onimusha 3 ไม่ได้นำเสนอเพียงซามูไรเท่านั้น
แต่ยังเพิ่มตัวละครฝรั่งเศส Jacques Blanc ที่แสดงโดย Jean Reno นักแสดงชื่อดังในโลกภาพยนตร์

Jacques เป็นทหารพิเศษที่มีสไตล์การต่อสู้ต่างจากซามูไร
เขามีปืนควง
มีแส้พลังงาน
มีการต่อสู้แบบผสมผสานทักษะยุคสมัยใหม่กับพลัง Oni

การมีสองตัวละครทำให้เกมสลับมุมมองระหว่างอดีตและปัจจุบันไปพร้อมกัน

จุดเด่นคือ:

Samanosuke – ต่อสู้ประชิดแบบดาบ มีพลัง Oni
Jacques – เคลื่อนไหวเร็ว ใช้อาวุธยืดได้ มีพลังพิเศษอีกแบบ

ความต่างนี้เสริมให้เกมมีจังหวะหลากหลาย
ไม่น่าเบื่อ
และให้ผู้เล่นได้สัมผัสแอคชันสองยุคที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน


สาม การเดินทางข้ามเวลา – ไอเดียที่ทำให้เกมมีสีสันและความแปลกใหม่

แกนของเนื้อเรื่องภาคนี้คือ “การเดินทางข้ามเวลา”

Samanosuke ถูกดึงไปสู่ปี 2004
Jacques ถูกดึงไปสมัยเซ็นโกคุ
ทั้งคู่ต้องต่อสู้ในยุคที่ตนไม่คุ้นเคย

ระบบนี้ทำให้ผู้เล่นเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน เช่น:

Jacques เจอภูมิประเทศยุคซามูไร ที่มีกับดักและป้อมปราการ
Samanosuke เจอถนนเมืองปารีส รถยนต์ ตึกสูง และอาวุธสมัยใหม่

ความรู้สึก “หลุดออกจากยุคที่ตนคุ้นเคย” เข้าถึงทุกการเดิมพันได้ง่ายผ่าน ทางเข้า UFABET ล่าสุด เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ รองรับมือถือทุกระบบ เข้าเล่นได้ตลอด 24 ชั่วโมง คือเสน่ห์ใหญ่ของเกม
และเป็นการเล่าเรื่องที่ทำให้ Onimusha 3 แตกต่างจากเกมซามูไรเกมอื่นทั้งหมด


สี่ ระบบการต่อสู้ – ลื่นไหล ตอบสนองไว และดุดันที่สุดในซีรีส์

เกมเพลย์ภาคนี้ได้รับการยกเครื่องครั้งใหญ่
จากเดิมที่เป็นแอคชันแบบกึ่งกำกับทิศทาง
กลายเป็นแอคชันที่ควบคุมลื่นแบบ “Devil May Cry ย่อส่วน”

ผู้เล่นสามารถ:

ฟันคอมโบ
หลบจังหวะ
ใช้ท่า Issen (ฟันสวนแบบเฉียบคม)
ชาร์จพลังอาวุธธาตุ
สลับดาบตามสถานการณ์
ดูดวิญญาณเก็บพลัง
และใช้พลัง Oni Mode

ระบบ Issen โดยเฉพาะ เป็นไอคอนของซีรีส์
ถ้ากดโจมตีในจังหวะเหมาะเจาะตอนศัตรูจู่โจม
จะเป็นการฟันดับแบบเดียวจบ
ให้ความรู้สึกทั้งเท่ ทั้งพริ้ว และสะใจสุด ๆ

นี่คือระบบที่เกมหลายเกมพยายามทำแต่ไม่เคยลงตัวเท่า Onimusha


ห้า อาวุธและพลังธาตุ – ความสนุกที่เพิ่มมิติให้การต่อสู้

Samanosuke มาพร้อมอาวุธธาตุหลายชนิด เช่น:

ดาบไฟ
ดาบสายฟ้า
ดาบน้ำแข็ง
ดาบพลัง Oni

แต่ละอาวุธไม่ใช่แค่เพิ่มความแรง
แต่มีคอมโบและท่าพิเศษเฉพาะ ทำให้ผู้เล่นเลือกใช้ตามสถานการณ์
บางดาบเหมาะกับการกำจัดกลุ่ม
บางดาบเหมาะกับศัตรูเดี่ยว
บางดาบเหมาะกับบอส

Jacques เองก็มีคอมโบของอาวุธพลัง Oni ที่ลื่นไหลมาก
ทำให้สลับเล่นระหว่างสองตัวละครสนุกแบบไม่ซ้ำซาก


หก ฉากบอส – ความอลังการแบบภาพยนตร์และการต่อสู้ที่ท้าทาย

Onimusha 3 มีบอสที่ออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ เช่น:

ปีศาจยักษ์คล้ายอสรพิษ
อัศวินปีศาจผู้ใช้พลังมืด
ยักษ์เกราะหนักที่ต้องหาจังหวะเฉือน
ปีศาจที่วาร์ปไป–มา
และสุดท้ายคือ Nobunaga ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในซีรีส์

บอสแต่ละตัวเน้นการอ่านจังหวะ
ใช้ท่าตอบโต้แบบ Issen
และใช้พลังธาตุอย่างถูกจังหวะ

นี่เป็นภาคที่ทำให้บอส “เป็นบททดสอบฝีมือจริง ๆ”
ไม่ใช่แค่ตัวใหญ่ไว้ฟัน


เจ็ด ความอลังการของคัทซีน – ระดับภาพยนตร์ที่ทำให้เกมโดดเด่น

จุดขายใหญ่ของ Onimusha 3 คือคัทซีนคุณภาพระดับยักษ์ใหญ่
การเปิดเกมที่ Samanosuke ฟัน Genma กลางปารีสคือหนึ่งในฉากเปิดที่ดีที่สุดในยุค PS2

ฉากต่อสู้แบบ CG เต็มไปด้วยรายละเอียด:

การเคลื่อนไหวเร็ว
ดาบเฉือน
ไฟกระจาย
ภาพมุมกว้างสุดตระการตา
องค์ประกอบแบบภาพยนตร์ที่สมดุล

นี่คือประสบการณ์ที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนกำลังชมภาพยนตร์ซามูไรผสานไซไฟ


แปด บรรยากาศ – การผสมแฟนตาซียุคซามูไรเข้ากับโลกอนาคตอย่างลงตัว

Onimusha 3 โดดเด่นมากตรงที่ใช้ “สองยุค” แบบสลับกันอย่างมีรสนิยม
ยุคซามูไรมีความหม่น ลึกลับ เต็มไปด้วยพิธีกรรมและปีศาจ สนใจเริ่มต้นเดิมพันออนไลน์กับเว็บตรง สมัคร UFABET วันนี้ รับสิทธิพิเศษมากมาย ทั้งโบนัสแรกเข้าและระบบฝากถอนออโต้ รวดเร็ว ปลอดภัย 100%
ยุคปารีสสมัยใหม่มีบรรยากาศของความโกลาหล อาวุธทันสมัย และเสียงไซเรน

การสลับพื้นที่และยุคทำให้เกมมี “รีธึ่ม” ที่สมบูรณ์
ไม่จำเจ
ไม่ซ้ำรูปแบบ

และยังทำให้เรื่องราวขยายกว้างขึ้นอย่างมาก
จนกลายเป็นความอลังการแบบใหม่ของซีรีส์


เก้า ความเข้าถึงง่าย – เล่นง่าย สนุกเร็ว และแอคชันดุดัน

Onimusha 3 ถูกออกแบบให้เล่นง่ายกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด

ควบคุมได้อิสระกว่า
ระบบต่อสู้ลื่น
การอ่านจังหวะไม่ซับซ้อน
โครงสร้างเลเวลชัดเจน
Puzzle ไม่ยุ่งยากเกินไป

นี่คือภาคที่เหมาะกับผู้เล่นใหม่มากที่สุด
และยังเป็นภาคที่เล่นสนุกทันทีแบบ “หยิบจอยแล้วมัน”

เหมือนการสมัคร ufabet ที่เริ่มต้นง่าย จังหวะของเกมนี้ก็ติดมืออย่างรวดเร็ว
ไม่ต้องอ่านคู่มือก็มันได้ตั้งแต่ฉากแรก


สิบ ทำไม Onimusha 3 จึงถูกยกให้เป็นภาคที่ดีที่สุดของซีรีส์

เหตุผลคือมันมีครบทุกด้านของเกมแอคชันยุค PS2:

หนึ่ง ตัวละครสองยุคที่มีเอกลักษณ์
สอง เนื้อเรื่องเดินทางข้ามเวลาที่แปลกใหม่
สาม เกมเพลย์ลื่นแบบ Devil May Cry ผสมซามูไร
สี่ ระบบ Issen ที่ตอบสนองไวและสะใจ
ห้า ฉากบอสที่ยอดเยี่ยม
หก งานภาพและ CG ระดับภาพยนตร์
เจ็ด การออกแบบโลกสองยุคที่ลงตัว
แปด ความยากกำลังพอดี
เก้า ความสนุกที่ต่อเนื่อง ไม่มีช่วงแผ่ว
สิบ เล่นซ้ำได้ไม่เบื่อ

มันคือภาคที่ขยายทุกอย่างของซีรีส์และทำให้ Onimusha กลายเป็นเกมระดับตำนานในใจใครหลายคนจนถึงทุกวันนี้


บทสรุป

Onimusha 3: Demon Siege คือเกมแอคชันซามูไรที่ลงตัวที่สุด
เป็นภาคที่พาแฟนเกมเข้าสู่โลกที่เต็มไปด้วย:

ความดุเดือด
ความลึกของเนื้อเรื่อง
ความอลังการของภาพ
ความพริ้วของเกมเพลย์
เสน่ห์ของสองตัวละคร
และการผสมผสานสองยุคแบบไร้รอยต่อ

นี่คือเกมที่ไม่เพียงสนุก แต่ยังสร้างความทรงจำให้ผู้เล่นอย่างลึกซึ้ง

มันคือจุดสูงสุดของซีรีส์ Onimusha
และยังคงเป็นเหตุผลใหญ่ที่แฟนเกมอยากเห็นการคืนชีพของซีรีส์นี้บนคอนโซลยุคใหม่